อ.ธงทองแย้ง สนามบินสุวรรณภูมิไม่เคยเปลี่ยนป้ายชื่อ
ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ โพสต์เนื้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็น หลัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ตอบกระทู้ถามสด กรณีเปลี่ยนแปลงป้าย สถานีกลางบางซื่อ เป็น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มูลค่ากว่า 33 ล้านบาท ที่ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม กล่าวว่า
“การเปลี่ยนชื่อป้าย เป็นเรื่องประเพณีปฏิบัติ เพื่อความเป็นมหามงคล ไม่ใช่ความต้องการของตนเอง เหมือนการเปลี่ยนชื่อสนามบินหนองงูเห่า เป็นสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ สถานที่ราชการหลายแห่ง ก็ดำเนินงานลักษณะนี้ด้วยเหมือนกัน”
โดย ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง ระบุว่า
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานตอนวันที่ 29 ก.ย. พ.ศ. 2543 เพื่อใช้แทนชื่อเดิม คือ “สนามบินหนองงูเห่า” และก็ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2545 ก่อนที่จะมีการเปิดให้บริการ ในฐานะสนามบินแห่งใหม่ของประเทศไทย ตอนวันที่ 28 ก.ย. พ.ศ. 2549
ตามความทรงจำของผม อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่เคยมีป้ายชื่อท่าอากาศยานหนองงูเห่าจัดตั้งมาก่อนเลย เมื่อสร้างอาคารสำเร็จเรียบร้อย ก็ใช้นามพระราชทาน “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ประดับติดตั้งอาคารมาตั้งแต่ต้น
นามพระราชทานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับพระราชทานมา 6 ปีเต็ม ล่วงหน้าก่อนท่าอากาศยาน ดังที่กล่าวมาแล้ว เปิดให้บริการ
ผมเป็นคนสนใจประวัติศาสตร์ แล้วก็ ทันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่ว่านี้ จึงต้องการนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ เผื่อมีใครคิดจะเทียบว่ากรณีแบบเดียวกันหรือไม่ เหมือนกันกับเรื่องราวที่เป็นข่าวอยู่เวลานี้ จะได้เอาไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการไตร่ตรองได้
“ศักดิ์สยาม” การันตีไม่มีอะไรปกปิด ปมเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ
“ศักดิ์สยาม” ขอรอผลตรวจสอบ ถ้าเกิดผลไม่ถูกต้อง ก็ปรับปรุงแก้ไข เปิดเผย คกก.เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด ลั่นหากไม่เชื่อชุดนี้ ก็หาไม่ได้แล้ว
5 ม.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พูดถึง กรณีการตั้งคณะกรรมการพิจารณา ตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างโครงการแก้ไขป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และ ตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า พวกเรา ยังไม่ได้กล่าวว่า คนไหนถูก หรือ ผิด
ซึ่งคณะกรรมการ ประกอบไปด้วย รองปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย แล้วก็ ตัวแทนผู้ชำนาญด้านสถาปัตยกรรม
ส่วนที่มีข้อสังเกตว่า บริษัทที่ได้รับปรับปรุงแผนการป้ายเป็นคู่สัญญากับรฟท. สำหรับการสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ก็เลยทำให้สามารถได้รับเลือกในโครงงานนี้ นายศักดิ์สยาม ระบุว่า ไม่เกี่ยว การรถไฟฯ อธิบายว่า ขณะสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ทำประกันสัญญากับบริษัทที่จัดทำการเปลี่ยนป้าย
รวมทั้ง มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินงานให้สอดคล้องกันได้ ไม่อย่างนั้น ใช้เวลาก่อสร้างเสร็จ ไม่ทราบว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ
อย่างไรก็ดี ขอให้คอยคณะกรรมการตรวจสอบก่อน พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรปกปิด โปร่งใส ถ้าหากผลการสอบสวนออกมากล่าวว่า ถูกก็คือถูกต้อง ถ้าหากไม่ถูกต้อง ก็จำต้องปรับปรุง เพราะว่า ในตอนนี้ ยังไม่ได้เริ่มเปลี่ยนแปลง ตัวป้ายที่มองเห็นปัจจุบันนี้ ยังเป็นป้ายเก่า
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเวลาเช้า สภาฯ ได้มีการตั้งกระทู้ถามสด ว่าทำไมไม่ตั้งชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ตั้งแต่แรก สิ่งนี้เป็นเรื่องการดำเนินงานตามประเพณีปฏิบัติ อาทิเช่นเดียว กับสนามบินสุวรรณภูมิ
เพราะเหตุว่า แต่ก่อนใช้ชื่อว่า สนามบินหนองงูเห่า ซึ่งตัวสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 พึ่งจะเสร็จ ในปี พ.ศ.2564 ใช้ชื่อสถานีกลางบางซื่อ มาวันนี้ได้ขอพระราชทานชื่อ ซึ่งหลายโครงการเป็นแบบนี้ ไม่ได้มีอะไรที่ปกปิด
เมื่อถามคำถามว่า บริษัท ที่ได้รับการดำเนินโครงงานเปลี่ยนแปลงป้าย จำต้องออกมาชี้แจงหรือไม่ นายศักดิ์สยาม บอกว่า ไม่จำเป็น เนื่องจาก คณะกรรมการที่ตั้ง เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งนั้น และ มั่นใจว่า ในประเทศไทย หากไม่เชื่อถือคณะกรรมการชุดนี้ ก็ไม่มีแล้ว หาไม่ได้
ข้อมูลทั่วไป สถานีกลางบางซื่อ
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ก่อสร้างระหว่างพ.ศ. 2556 ถึง 2564 ใช้งบประมาณในเขตสถานีทั้งสิ้น 34,142 ล้านบาท 2 อาคารสถานี มีความยาว 596.6 เมตร ความกว้าง 244 เมตร ความสูง 43 เมตร พื้นที่ใช้สอยในอาคาร รวม 274,192 ตารางเมตร (ไม่รวมพื้นที่สถานีใต้ดิน) 2 ออกแบบ ภูมิสถาปัตย์โดย บริษัท ดีไซน์ คอนเซปท์ จำกัด
มี 26 ชานชาลา เป็นของรฟท. 24 ชานชาลา แล้วก็ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 2 ชานชาลา
อาคารสถานีมีทั้งหมด 7 ชั้นรวมชั้นที่อยู่ใต้ดิน ชั้นที่อยู่ใต้ดิน 2 ชั้นฝั่งใต้ เป็นสถานี รถไฟฟ้ามหานคร ชั้นที่อยู่ใต้ดินที่เหลือ 1 ชั้น เป็นที่จอดรถใต้ดิน ชั้นเหนือพื้นดินทั้งหมด ถูกแบ่งได้สองส่วน คือ ส่วนบริการรถไฟ รวมทั้ง ส่วนบริการผู้โดยสาร สำหรับส่วนบริการรถไฟ ชั้นระดับดิน เป็นห้องจำหน่วยตั๋ว และก็ โถงพักคอยผู้โดยสาร ชั้นที่สอง ให้บริการรถไฟรางหนึ่งเมตร ชั้นที่สาม ให้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูง และก็ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
และ ส่วนบริการผู้โดยสาร ประกอบด้วยชั้นระดับดิน เป็นโถงต้อนรับ พื้นที่จำหน่ายบัตรโดยสารสำหรับรถไฟทางไกล และ ศูนย์อาหาร ชั้นลอยเป็นร้านค้า แล้วก็ ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำนักงาน มี สำนักงานใหญ่ของ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ศูนย์ควบคุมการ เดินรถไฟฟ้าสายสีแดง และ รถไฟที่ใช้ทางร่วม สำนักงานบริหารโครงการรถไฟความเร็วสูง และ พื้นที่รองรับแขกวีไอพี
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะแตกต่างจากสถานีกรุงเทพเดิม เพราะว่า ถูกดีไซน์ให้เป็นสถานีระบบปิด มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเทียบเท่ากับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารที่ไม่มีตั๋วโดยสารรถไฟ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนชั้นชานชาลาของสถานีได้
ดังเช่น สถานีกรุงเทพเดิม เพราะเหตุว่า ชั้นชานชาลา นับว่าเป็นพื้นที่เขตหวงห้ามเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืน จะถูกฟ้องร้องคดีตามกฎหมาย ที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543